แสงเหนือและใต้

แสงประหลาดบนท้องฟ้าอาร์กติก

               ในบางคืนบางท้องฟ้าของตำบลซึ่งอยู่ในแถบละติจูดสูงทั้งทางซีกโลกภาคใต้  ชาวโลกแถบนั้นอาจได้เห็นแสงเรืองแวบวาบเป็นม่านย้อย  หรือเป็นเส้นสายหรือคล้ายเปลวไฟมีสีต่างๆ  ปรากฏอยู่บนท้องฟ้า  ปรากฏการณ์เช่นนี้มักเกิดบ่อยครั้งในฤดูใบไม้ผลิ  และฤดูใบไม้ร่วงและมีชื่อเรียกว่า  แสงเหนือ  หรือแสงใต้  แล้วแต่ว่าเกิดขึ้นในบริเวณใกล้ขั้วเหนือหรือขั้วใต้ของโลก การเกิดแสงเหนือแสงใต้ขึ้นในบรรยากาศของโลก  มีความสัมพันธ์กับการปรากฏของกลุ่มจุดบนดวงอาทิตย์  แสงเหนือแสงใต้มักเกิดภายหลังปรากฏการณ์ลุกจ้า  หรือการระเบิดบนดวงอาทิตย์ประมาณหนึ่งวัน  ซึ่งทำให้สันนิษฐานว่า  สิ่งที่มาทำให้เกิดแสงเหนือแสงใต้ขึ้นนี้  เดินทางมายังโลกจากบริเวณลุกจ้าบนดวงอาทิตย์  ด้วยความเร็ว  1,600  กิโลเมตรต่อวินาที

                แสงเหนือแสงใต้  มีความสัมพันธ์กับสนามแม่เหล็กของโลก  เพราะบริเวณที่ปรากฏแสงเหนือแสงใต้ ให้เห็นบนท้องฟ้าบ่อยที่สุดนั้น เป็นโซนห่างจากขั้วเหนือและใต้ของแม่เหล็กโลก  จาก     20 ถึง 25  องศาโดยรอบ  สำหรับตำบลที่มองเห็นแสงเหนือแสงใต้จากไกล    จะปรากฏว่าศูนย์กลางความสว่างของแถบแสงอยู่ตรงทิศทางตามแนวของเข็มทิศพอดี  นักวิทยาศาสตร์สันนิษฐานว่า  แสงเหนือแสงใต้เกิดจากการที่อนุภาคไฟฟ้า  โดยเฉพาะโปรตอนและอิเลคตรอนซึ่งเดินทางมาจากดวงอาทิตย์  พุ่งเข้าชนบรรยากาศของโลกด้วยความเร็วนับร้อยหรือพันกิโลเมตรต่อวินาที  อนุภาคเหล่านี้มีกำเนิดในบรรยากาศของดวงอาทิตย์บริเวณเหนือกลุ่มจุดและจะเกิดขึ้นมากมายมีความเร็วสูงขณะเมื่อเกิดการลุกจ้าหรือการระเบิดขึ้นในบริเวณนั้น  กระแสอนุภาคเหล่านี้บางส่วนจะเคลื่อนที่มาทางโลกของเรา  โดยเหตุที่โลกมีสนามแม่เหล็กห่อหุ้มอยู่รอบตัว  อนุภาคไฟฟ้าไม่สามารถจะเคลื่อนที่ตัดผ่านสนามแม่เหล็กเข้ามาตรงๆ  ได้  จึงมีการเบี่ยงเบนหมุนควงตามเส้นแรงแม่เหล็ก  เข้าสู่บรรยากาศของโลกทางขั้วเหนือและขั้วใต้ของโลก

กลับหน้าเเรก